วิธีทำความสะอาดและดูแลบ้านเมื่อมีสัตว์เลี้ยง
การเลี้ยงสัตว์เลี้ยงไม่ว่าจะเป็นสุนัข แมว กระต่าย หรือนก เป็นสิ่งที่เติมเต็มความสุขและทำให้บ้านมีชีวิตชีวามากขึ้น แต่ในขณะเดียวกัน สัตว์เลี้ยงก็มักนำมาซึ่งปัญหาความสะอาด เช่น ขนร่วง กลิ่นอับ คราบสกปรก หรือแม้แต่เชื้อโรคที่อาจสะสมโดยที่เราไม่รู้ตัว หากเจ้าของบ้านรู้จักวิธีทำความสะอาดและดูแลบ้านที่ถูกต้อง บ้านก็จะยังคงสะอาด น่าอยู่ และปลอดภัยต่อทั้งคนและสัตว์
1. การจัดการขนสัตว์เลี้ยง
ขนสัตว์ ถือเป็นปัญหาหลักในบ้าน โดยเฉพาะในสุนัขและแมวที่ผลัดขนตามฤดูกาล
- ดูดฝุ่นทุกวันหรือวันเว้นวัน ใช้เครื่องดูดฝุ่นที่มีฟิลเตอร์ HEPA เพราะสามารถกรองฝุ่นและสารก่อภูมิแพ้ได้ละเอียดมากกว่าการกวาดปกติ 
- แปรงขนเป็นประจำ อย่างน้อยวันละครั้งสำหรับสัตว์ขนยาว เพื่อให้ขนที่หลุดร่วงติดกับแปรงแทนที่จะฟุ้งกระจายไปทั่วบ้าน 
- ใช้ลูกกลิ้งกาว/ถุงมือซิลิโคน สำหรับโซฟา ผ้าม่าน หรือเสื้อผ้า จะช่วยเก็บขนที่ติดตามเนื้อผ้าได้ดี 
- ซักผ้าปูที่นอนสัตว์เลี้ยงทุกสัปดาห์ เพื่อลดขนสะสมและไรฝุ่น 
2. การกำจัดกลิ่นและคราบ
สัตว์เลี้ยงอาจสร้างกลิ่นไม่พึงประสงค์ เช่น ปัสสาวะ อุจจาระ หรือกลิ่นตัว
- ใช้ Enzyme Cleaner กำจัดคราบและกลิ่นอินทรีย์ เช่น ปัสสาวะหรืออาเจียน โดยไม่ทิ้งสารเคมีตกค้างอันตราย 
- สูตรธรรมชาติ เช่น น้ำส้มสายชู + เบกกิ้งโซดา ช่วยลดกลิ่นและฆ่าเชื้อเบื้องต้น เหมาะกับการถูพื้นหรือเช็ดโซฟา 
- เปิดหน้าต่างให้อากาศถ่ายเท ร่วมกับใช้เครื่องฟอกอากาศ (มี Activated Carbon) จะช่วยดูดซับกลิ่นได้ดี 
- หมั่นอาบน้ำสัตว์เลี้ยง ตามช่วงเวลาที่เหมาะสม (สุนัข 1–2 ครั้ง/เดือน, แมวใช้วิธีเช็ดตัว) 
3. การดูแลพื้นบ้านและเฟอร์นิเจอร์
การเลือกวัสดุและทำความสะอาดพื้นบ้านมีผลต่อสุขอนามัย
- พื้นกระเบื้อง/ไม้ลามิเนต ควรถูด้วยน้ำยาที่ปลอดภัยต่อสัตว์ (ไม่มีสารฟีนอล คลอรีน หรือแอมโมเนีย) 
- เฟอร์นิเจอร์บุผ้า ควรใช้ผ้าคลุมที่ถอดซักได้ ป้องกันคราบและกลิ่นติดแน่น 
- ป้องกันรอยขีดข่วน จัดหาของลับเล็บให้แมว และหมั่นตัดเล็บสุนัขเพื่อลดการขีดพื้นหรือโซฟา 
- เลือกพรมแบบซักได้ เพราะสัตว์อาจทำเลอะได้ง่าย 
4. สุขอนามัยและการควบคุมเชื้อโรค
การมีสัตว์เลี้ยงในบ้านต้องระวังโรคที่ติดต่อได้ทั้งกับคนและสัตว์
- ล้างชามอาหาร/น้ำทุกวัน ป้องกันเชื้อแบคทีเรียสะสม 
- ซักของเล่นและที่นอนสัตว์อย่างน้อยเดือนละครั้ง ด้วยน้ำร้อนหรือน้ำยาซักที่ปลอดภัย 
- ดูแลเห็บ หมัด ไรฝุ่น ไม่ให้สะสมในบ้าน โดยใช้ยาป้องกันตามที่สัตวแพทย์แนะนำ และดูดฝุ่นพรม/มุมบ้านเป็นประจำ 
- หมั่นพาสัตว์เลี้ยงไปตรวจสุขภาพและฉีดวัคซีน เพื่อลดความเสี่ยงโรคที่ส่งต่อถึงเจ้าของ 
5. การจัดบ้านให้เหมาะกับสัตว์เลี้ยง
บ้านที่ดีไม่ใช่เพียงสะอาด แต่ต้องปลอดภัยด้วย
- เก็บสารเคมีและยาที่เป็นอันตรายให้พ้นมือสัตว์ เช่น น้ำยาล้างห้องน้ำ ยาฆ่าแมลง 
- เลือกน้ำยาทำความสะอาดสูตรออร์แกนิก หรือติดป้าย “Pet Safe” เพื่อความปลอดภัย 
- จัดมุมสำหรับสัตว์เลี้ยง เช่น มุมวางชามอาหาร กระบะทราย หรือที่นอน เพื่อลดการกระจายของขนและกลิ่นไปทั่วบ้าน 
- ใช้ประตูรั้วกั้นพื้นที่ หากไม่ต้องการให้สัตว์เข้าไปในบางห้อง เช่น ห้องครัว หรือห้องนอน 
6. การวางแผนทำความสะอาดประจำวัน–สัปดาห์–เดือน
- ทุกวัน: กวาดหรือดูดฝุ่น เช็ดบริเวณที่สัตว์อยู่บ่อย เช่น มุมพักผ่อนหรือบริเวณชามอาหาร 
- ทุกสัปดาห์: ซักผ้าปูที่นอนสัตว์ ดูดฝุ่นพรมและโซฟา ล้างกระบะทรายแมว 
- ทุกเดือน: ฆ่าเชื้ออุปกรณ์สัตว์ ฟอกพรม และตรวจสอบเห็บหมัด/ไรฝุ่นในบ้าน 
สรุป
การเลี้ยงสัตว์เลี้ยงให้มีความสุขและสุขภาพดี ไม่ได้ขึ้นอยู่กับการให้อาหารและการเล่นเพียงอย่างเดียว แต่ การดูแลบ้านให้สะอาดและปลอดภัยก็สำคัญไม่แพ้กัน การจัดการขน กลิ่น คราบสกปรก รวมถึงการเลือกน้ำยาที่ปลอดภัย จะช่วยให้บ้านน่าอยู่มากขึ้น ทั้งสำหรับเจ้าของและสัตว์เลี้ยง
