ข่าวสารและสาระน่ารู้

 

วิธีดูแลลูกแมวแรกเกิดให้แข็งแรง

ลูกแมวแรกเกิดเป็นสิ่งมีชีวิตที่บอบบางมาก ทั้งร่างกาย ระบบภูมิคุ้มกัน และการปรับตัวต่อสิ่งแวดล้อมยังไม่สมบูรณ์ การดูแลในช่วง 2 เดือนแรกจึงเป็นสิ่งสำคัญที่สุด หากได้รับการเอาใจใส่อย่างเหมาะสม ลูกแมวจะเติบโตแข็งแรง ลดโอกาสเจ็บป่วย และมีพัฒนาการที่ดี


1. การจัดสภาพแวดล้อมที่อบอุ่นและปลอดภัย

  • อุณหภูมิ : ลูกแมวแรกเกิดไม่สามารถควบคุมอุณหภูมิร่างกายได้เอง ควรรักษาอุณหภูมิระหว่าง 29–32°C ในช่วง 2 สัปดาห์แรก แล้วค่อยลดลงทีละน้อยเมื่อโตขึ้น

  • ที่นอน : ใช้กล่องหรือคอกเล็ก ๆ บุด้วยผ้าสะอาดและหนานุ่ม ควรเปลี่ยนผ้าบ่อยเพื่อป้องกันเชื้อโรค

  • ความปลอดภัย : หลีกเลี่ยงลมแรง เสียงดัง หรือสัตว์อื่น ๆ มารบกวน เพราะลูกแมวยังอ่อนแอและไวต่อสิ่งกระตุ้น


2. การให้นมลูกแมว

กรณีมีแม่แมว

  • ให้ลูกแมวได้ดูดนมแม่ทันทีหลังคลอด โดยเฉพาะ น้ำนมเหลือง (Colostrum) ที่เต็มไปด้วยภูมิคุ้มกัน

  • ตรวจสอบให้แน่ใจว่าแม่แมวมีน้ำนมพอ และลูกแมวทุกตัวสามารถดูดนมได้

กรณีไม่มีแม่แมวเลี้ยง

  • ใช้นมผงสำหรับลูกแมวโดยเฉพาะ (ห้ามใช้นมวัวหรือควาย เพราะทำให้ท้องเสีย)

  • ใช้ขวดนมเล็กหรือไซริงค์ป้อน โดยต้องจับลูกแมวให้นอนคว่ำ ไม่ป้อนในท่านอนหงายเพราะเสี่ยงสำลัก

  • ความถี่ในการให้นม:

    • อายุ 1–2 สัปดาห์ : ทุก 2–3 ชั่วโมง (กลางคืนด้วย)

    • อายุ 3–4 สัปดาห์ : ทุก 4 ชั่วโมง

  • ปริมาณ : ประมาณ 2–4 มิลลิลิตรต่อน้ำหนักตัว 100 กรัมต่อมื้อ


3. การกระตุ้นการขับถ่าย

ลูกแมวแรกเกิดยังไม่สามารถขับถ่ายเองได้ จำเป็นต้องได้รับการกระตุ้นเหมือนแม่แมวเลีย

  • หลังให้นมทุกครั้ง ใช้สำลีหรือผ้านุ่มชุบน้ำอุ่นเช็ดเบา ๆ บริเวณท้องและอวัยวะเพศ

  • ทำต่อเนื่องจนถึงอายุ 3–4 สัปดาห์ ลูกแมวจึงจะเริ่มขับถ่ายเองได้


4. การดูแลสุขภาพทั่วไป

  • ชั่งน้ำหนัก : ชั่งทุกวันเพื่อเช็กพัฒนาการ ปกติควรน้ำหนักขึ้นวันละ 10–15 กรัม

  • สังเกตอาการ : หากมีอาการซึม ไม่กินนม ท้องเสีย หรือหายใจผิดปกติ ควรรีบพบสัตวแพทย์

  • การถ่ายพยาธิและวัคซีน :

    • เริ่มถ่ายพยาธิได้เมื่ออายุ 2 สัปดาห์ขึ้นไป

    • วัคซีนเข็มแรกเริ่มที่อายุ 6–8 สัปดาห์ ตามคำแนะนำของสัตวแพทย์


5. การเปลี่ยนผ่านสู่การกินอาหาร

  • เมื่ออายุประมาณ 4 สัปดาห์ เริ่มให้อาหารลูกแมวแบบเปียกหรืออาหารเม็ดนิ่ม ๆ ที่ผสมน้ำอุ่น

  • ค่อย ๆ ลดปริมาณนมและเพิ่มอาหารหลัก

  • อายุ 8 สัปดาห์ สามารถกินอาหารเม็ดลูกแมวได้เต็มรูปแบบ


6. การสร้างความคุ้นเคยและพัฒนาทักษะสังคม
  • ควรปล่อยให้ลูกแมวอยู่กับแม่และพี่น้องจนถึงอายุอย่างน้อย 8 สัปดาห์ เพื่อเรียนรู้พฤติกรรมแมว

  • หากไม่มีแม่แมว เจ้าของควรสัมผัส พูดคุย และเล่นกับลูกแมวอย่างอ่อนโยน

  • ใช้ของเล่นปลอดภัย เช่น ลูกบอลผ้า เชือกขนาดใหญ่ เพื่อฝึกกล้ามเนื้อและพัฒนาการเคลื่อนไหว


7. สัญญาณอันตรายที่ต้องรีบพบสัตวแพทย์
  • ลูกแมวไม่กินนม หรือหยุดกินกะทันหัน

  • น้ำหนักไม่เพิ่ม หรือกลับลดลง

  • ท้องเสีย ถ่ายเป็นน้ำหรือมีเลือดปน

  • หายใจหอบ เสียงดัง ไอ หรือจามบ่อยผิดปกติ

  • ซึม ไม่ตอบสนอง หรืออ่อนแรงมาก


สรุป

การดูแลลูกแมวแรกเกิดให้แข็งแรงต้องใส่ใจ ความอบอุ่น อาหาร การขับถ่าย สุขอนามัย และพัฒนาการทางสังคม หากเจ้าของให้ความรัก ความเอาใจใส่ และพาลูกแมวตรวจสุขภาพกับสัตวแพทย์ตามกำหนด ลูกแมวก็จะเติบโตอย่างแข็งแรง พร้อมเป็นเพื่อนคู่ใจที่น่ารักไปอีกนานหลายปี


 

ติดต่อเรา : www.natradaanimalhospital.com