การดูแลลูกแมวแรกเกิด : อาหาร อุณหภูมิ และสุขภาพ
ลูกแมวแรกเกิดเป็นสัตว์เลี้ยงที่ต้องการการดูแลอย่างใกล้ชิดที่สุด เพราะยังไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ ทั้งเรื่องการกิน ความอบอุ่น และสุขภาพ หากเจ้าของเข้าใจและดูแลได้ถูกวิธี จะช่วยให้ลูกแมวเติบโตแข็งแรง ลดความเสี่ยงโรคหรือการเจ็บป่วยในอนาคตได้
1. อาหารสำหรับลูกแมวแรกเกิด
🍼 นมแม่คือสิ่งที่ดีที่สุด
ในนมแม่มีสารอาหารครบถ้วนและภูมิคุ้มกัน (Colostrum) ที่สำคัญต่อการสร้างภูมิคุ้มกันในช่วง 24–48 ชั่วโมงแรกหลังคลอด
หากเป็นไปได้ ควรให้ลูกแมวกินนมแม่อย่างน้อย 4–6 สัปดาห์
🍼 เมื่อลูกแมวกำพร้าหรือไม่มีนมแม่
ควรใช้นมทดแทน (Kitten Milk Replacer: KMR) ที่ออกแบบมาเฉพาะสำหรับลูกแมว
ห้ามใช้นมวัว เพราะมีแลคโตสสูง ทำให้ลูกแมวท้องเสียและเสี่ยงต่อการขาดน้ำ
🍼 วิธีการให้นม
ใช้ขวดนมสำหรับลูกสัตว์ หรือไซริงค์ที่ออกแบบมาโดยเฉพาะ
ป้อนลูกแมวในท่านอนคว่ำ (เหมือนดูดนมแม่) ห้ามป้อนในท่านอนหงาย เพราะเสี่ยงสำลัก
ปริมาณการให้นม: ประมาณ 2–6 มิลลิลิตรต่อน้ำหนักตัว 100 กรัม ต่อครั้ง ขึ้นอยู่กับอายุและน้ำหนัก
ความถี่ในการให้นม:
อายุ 1 สัปดาห์ → ทุก 2–3 ชั่วโมง
อายุ 2 สัปดาห์ → ทุก 3–4 ชั่วโมง
อายุ 3–4 สัปดาห์ → ทุก 4–6 ชั่วโมง และเริ่มให้อาหารกึ่งแข็ง (Weaning food)
2. การควบคุมอุณหภูมิร่างกาย
ลูกแมวแรกเกิดยัง ไม่สามารถควบคุมอุณหภูมิร่างกายได้เอง ต้องอาศัยความอบอุ่นจากแม่หรือเจ้าของ
อุณหภูมิที่เหมาะสม:
อายุ 1 สัปดาห์ → 30–32°C
อายุ 2–3 สัปดาห์ → 27–29°C
อายุ 4 สัปดาห์ขึ้นไป → 24–26°C
วิธีช่วยรักษาความอบอุ่น
ใช้ ผ้าห่ม ผ้าขนหนู หรือกล่องที่บุด้วยวัสดุอบอุ่น
ใช้ แผ่นทำความร้อน (Heating pad) หรือขวดน้ำอุ่นห่อด้วยผ้า วางไว้ใกล้ลูกแมว แต่ไม่ควรให้สัมผัสโดยตรงเพื่อป้องกันการลวก
หมั่นสังเกต หากลูกแมวร้องเสียงดังและดิ้น อาจหนาวเกินไป แต่ถ้านอนแผ่หรือตัวร้อนผิดปกติ อาจร้อนเกินไป
3. การดูแลสุขภาพลูกแมว
🩺 การขับถ่าย
ลูกแมวแรกเกิดยังไม่สามารถขับถ่ายเองได้ ต้องกระตุ้นโดยใช้สำลีหรือผ้าชุบน้ำอุ่น เช็ดเบา ๆ บริเวณท้องและอวัยวะเพศหลังให้นมทุกครั้ง
หากไม่กระตุ้น อาจเกิดภาวะท้องอืดหรือท้องผูก
🩺 การทำความสะอาด
ใช้ผ้าชุบน้ำอุ่นเช็ดตัวเบา ๆ หากตัวเปื้อน หลีกเลี่ยงการอาบน้ำในช่วง 1 เดือนแรก
รักษาความสะอาดของที่นอนและอุปกรณ์ป้อนนมเสมอ
🩺 การฉีดวัคซีนและถ่ายพยาธิ
เริ่มฉีดวัคซีนได้เมื่ออายุประมาณ 6–8 สัปดาห์
ควรถ่ายพยาธิตามคำแนะนำของสัตวแพทย์
🩺 สัญญาณอันตรายที่ควรรีบพาไปหาสัตวแพทย์
ไม่กินนมหรือกินน้อยผิดปกติ
ท้องเสีย อาเจียน หรือท้องบวม
ตัวเย็น ซึม ไม่เคลื่อนไหว
น้ำหนักไม่เพิ่มขึ้นตามวัย
4. การเข้าสังคมและพัฒนาการ
อายุ 2–3 สัปดาห์: เริ่มลืมตาและเคลื่อนไหวได้มากขึ้น
อายุ 3–4 สัปดาห์: เริ่มเดิน เล่น และสำรวจสิ่งรอบตัว
อายุ 5–6 สัปดาห์: เริ่มเรียนรู้การเข้าสังคมกับแม่และพี่น้อง รวมถึงการขับถ่ายในกระบะทราย
สรุป
การดูแลลูกแมวแรกเกิดเป็นภารกิจที่ต้องใช้ทั้งความใส่ใจและความรู้ ตั้งแต่เรื่อง อาหาร (นมแม่หรือนมทดแทน), อุณหภูมิที่เหมาะสม และการดูแลสุขภาพอย่างใกล้ชิด หากเจ้าของใส่ใจครบทุกด้าน ลูกแมวจะเติบโตแข็งแรง มีภูมิคุ้มกันดี และพร้อมเข้าสู่วัยที่โตเต็มวัยอย่างสมบูรณ์
ติดต่อเรา : www.natradaanimalhospital.com